Fade in WORKSHOP: ทำไมต้องเซาะร่องรูบริดจ์พิน ?
ทำไมต้องเซาะร่องบริเวณรูพินบนบริดจ์ (Bridge Pin)ให้เฉียง ๆ ?
เสียงกีตารโปร่งเกิดขึ้นจาก เมื่อเราดีดสายกีตาร์ให้เกิดการสั่น อากาศจะเข้าและออกจากบอดี้กีตาร์ ผ่าน Sound hole เกิดขึ้นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกันการสั่นของสายจะส่งต่อไปยังไม้หน้าด้วยเช่นกัน เปรียบเทียบง่ายๆ ไม้หน้าเหมือนเป็นตัวขยายเสียง(amplifier) ส่วนทั้งบอดี้เป็นเหมือนลำโพง(speaker) นี่คือหลักการแบบง่ายของการเกิดเสียงกีตาร์โปร่ง
ส่วนการสั่นของสายที่ทำให้เกิดพลังงาน จะเกิดขึ้นจากแรงกระทำลงบนสายที่มี "แรงตึง" โดยแรงตึงที่พอเหมาะจะทำให้เกิดเสียงที่ดี ดังพอประมาณและมีหางเสียงที่กำลังดี หากแรงตึงน้อยเกินไป พลังการสั่นก็จะน้อย (เสียงเบา) หากมากเกินก็ต้องใช้แรงกระทำที่มากขึ้นและการสั่นจะหยุดเร็ว (เสียงดังแต่หางเสียงจะสั้น)
สิ่งที่ส่งผลต่อ "แรงตึงสาย" มีหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ขนาดสาย, ความยาวสเกล ฯลฯ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ "แรงกดแนวตั้ง" ซึ่งเกี่ยวของกับความชันของจุดขึงสายกับขาน "ยิ่งความชันมาก แรงกดแนวตั้งยิ่งมาก" โดยจะมี 2 ที่ คือ
1. ความชันของสายที่ออกจากนัทไปพันบนลูกบิด >> เป็นเหตุผลว่าทำไมคอกีตาร์ถึงชี้ไปด้านหลัง, ทำไม Strat ต้องมี String Tree
2. ความชันของสายหลังแซดเดิลลงไปในรูพิน
เพื่อเพิ่มความชันหรือแรงกดแนวตั้งบริเวณแซดเดิล ผู้ผลิตกีตาร์จึงทำกีตาร์เซาะรูพิน ให้สายเข้าลาดเอียงเข้าไปไม้หน้าในระยะที่สั้นกว่าเดิม จึงทำให้สายนั้นมีความชันที่มากขึ้นและมีแรงกดแนวตั้งที่เพิ่มขึ้น
ที่มาภาพ: https://hazeguitars.com/blog/acoustic-guitar-tone-and-string-break-angle
ข้อสังเกต: หากกีตาร์โปร่งที่มีภาคไฟฟ้าแบบวาง Piezo ใต้แซดเดิล แล้วความชันสายบริเวณนั้นน้อย จะทำให้เสียงของภาคไฟฟ้าออกได้ไม่ดี เพราะ "แรงกดแนวตั้ง" น้อยเกินไป
อ้างอิง: https://hazeguitars.com/blog/acoustic-guitar-tone-and-string-break-angle
#fadeinguitarshop #Acousticguitar #stringtension #แรงตึงสายกีตาร์โปร่ง #กีตาร์โปร่ง #breakangle
Comments